ธรรมชาติบำบัด
- ใช้สมุนไพรในการผลิต
- ใช้ยาแผนไทยตามปริมาณเดิมตลอดการดูแลอาการ อาการลดลงเมื่อใช้ต่อเนื่อง
- ใช้ต่อเนื่องได้ตามขนาดที่แพทย์ระบุ ร่างกายนำตัวยาไปใช้และขับออกได้ตามกลไกธรรมชาติ
- ยาแผนไทยปรับสมดุลภูมิคุ้มกันด้วยวิธีธรรมชาติ
- หยุดใช้ยาแผนไทยได้หลังจากอาการสงบ
- ข้อดีคือเมื่อภาวะโรคสงบ ผู้ป่วยหยุดยาได้ และให้หยุดอาหารที่กินแล้วอาการกำเริบ ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละรายให้สังเกตว่าตัวเองแพ้อะไรให้หยุดกินอาหารชนิดนั้น
- ใช้ระยะเวลารักษา การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเป็นปัจจัยหนึ่งในการรักษา
สเตียรอยด์
- ใช้เคมีสังเคราะห์ในการผลิต
- ใช้สเตียรอยด์เพิ่มเพื่อกดภูมิคุ้มกันไว้ มีการดื้อต่อการรักษา
- ใช้ต่อเนื่องอาการแย่ลง ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อหลายระบบในร่างกาย แม้ใช้ตามแพทย์กำหนด
- สเตียรอยด์กดภูมิคุ้มกันมีโอกาสติดเชื้อระหว่างใช้และเกิดอันตรายได้
- เมื่อหยุดใช้สเตียรอยด์อาการมักจะกำเริบ
- ข้อดีคือหยุดอาการได้เร็ว ในช่วงที่ต้องรักษาเร่งด่วน แพทย์มักเลือกใช้เมื่อจำเป็นหรือไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเท่านั้น
เสริมความรู้: เมื่อร่างกายได้รับสารสเตียรอยด์สังเคราะห์เป็นเวลานาน ร่างกายจะหยุดสร้างสเตียรอยด์ตามธรรมชาติที่เคยสร้างเองได้
หากหยุดใช้กะทันหันจะทำให้ร่างกายขาดสเตียรอยด์ฉับพลัน อาจเกิดภาวะช็อก หมดสติและเสียชีวิตได้
วิธีถอนสเตียรอยด์ที่ถูกต้องใน 4 สัปดาห์ เพื่อลดอาการเห่อของผื่น ผลข้างเคียงจากการหยุดใช้สเตียรอยด์
สัปดาห์ที่ 1 ทายาสเตียรอยด์ที่เคยใช้อยู่ ทาตอนเช้า วันจันทร์, พุธ และศุกร์ (3 ครั้งต่อสัปดาห์) ช่วงเวลาอื่นทาสมุนไพร ทาได้บ่อยตามต้องการ
สัปดาห์ที่ 2 และ 3 ทายาสเตียรอยด์ตอนเช้า วันจันทร์และพฤหัส (2 ครั้งต่อสัปดาห์) เท่านั้น ช่วงเวลาอื่นทาสมุนไพร ทาได้บ่อยตามต้องการ
สัปดาห์ที่ 4 ทายาสเตียรอยด์ตอนเช้า วันจันทร์ (1 ครั้งในสัปดาห์สุดท้าย) ช่วงเวลาอื่นทาสมุนไพร ทำได้บ่อยตามต้องการ
*ครบ 4 สัปดาห์ให้หยุดใช้ยาสเตียรอยด์ ใช้สมุนไพรทาได้บ่อยตามต้องการ
ข้อควรปฏิบัติเพื่อช่วยให้ร่างกายผลิตสเตียรอยด์ธรรมชาติใช้เองได้อีกครั้งและเร่งขับสเตียรอยด์สังเคราะห์ที่ตกค้างในร่างกาย
- กินอาหารที่สะอาด มีประโยชน์ ไม่กินอาหารก่อนนอน
- หยุดกินอาหารที่รู้ว่าตัวเองกินแล้วมีอาการกำเริบ
- ออกกำลังกายให้เหมาะกับวัย
- ดื่มน้ำสะอาดประมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน
- เข้านอนไม่เกิน 22:00 น. และพักผ่อนให้เพียงพอ